แนวทาง 7 ข้อช่วยให้คุณเลิกเป็นคน ขี้กังวลใจ

[Ailie662]

หากคุณเป็นคนๆหนึ่งที่ชอบ คิดมาก เพ้อเจ้อ ขี้กังวล กับความประพฤติปฏิบัติไปซะทุกเรื่อง

จนกระทั่งทำให้จำเป็นต้องคับอกคับใจอยู่เป็นประจำเรามีแนวทางมาเสนอแนะที่สามารถช่วยให้ท่านลดความวิตกกังวล คิดมาก หรือ ฟุ้งซ่านลงได้

1. พินิจความคิดของตน

ส่วนสำคัญที่สุดของแนวทางการทำเป็น การปลดปล่อยให้ความนึกคิดของคุณลอยผ่านไป

แทนที่จะไปยึดติดอยู่กับมันหรือพย าย ามที่จะหยุดคิดมัน การฝึกให้มีสมาธีแบบรุ่งโรจน์สติเป็นสิ่งที่ช่วยทำให้คุณ


หยุดหมกมุ่นกับเรื่องในอดีตได้ โดยให้ท่านทดลองสังเกตการณ์ความนึกคิดของตน


มองว่าตัวเองกำลังกังวลอยู่กับเรื่องอะไร รวมทั้ง จะแก้ปัญหาได้อย่ างไร แทนที่จะลงไปหมกมุ่นอยู่กับมัน

ลองนั่งอยู่เฉยๆแล้วสังเกตความคิดของตัวเองมอง คุณจะรู้เลยว่าความคิดมันไร้ขอบเขตจริงๆ

และในขณะที่คุณพย าย ามทำให้มันนิ่ง ก็มีแต่จะแย่ลงเพียงแค่นั้น แม้กระนั้นจิตใจของคุณจะสงบลงเองเมื่อเวลาผ่านไปสักพัก

แล้วก็ เมื่อจิตใจของคุณสงบแล้วมันก็จะมีช่องว่างสำหรับเพื่อการฟังสิ่งที่ละเอียดลออเพิ่มขึ้น

2. เขียนความนึกคิดของตนเอง

อีกแนวทางนึง ที่สามารถจะช่วยหยุดความนึกคิดฟุ้งซ่านของคุณ ก็คือ การระบายให้กับผู้ที่มีมุมมองวิธีคิดไม่เหมือนกัน

ไปจากคุณได้ฟัง หรือ จะใช้แนวทางเขียนระบายความนึกคิดของตัวลงไปในกระดาษแทนก็ได้


เพราะว่า การเขียนทำให้เราคิดอย่ างเป็นระบบมากยิ่งขึ้น ถ้าคุณเก็บความคิดพวกนั้นไว้แต่ว่าในหัว


นอกเหนือจากมันจะไปสุมกันจนกระทั่งเป็นภูเขามันยังเป็นเหตุให้คุณวนกลับมาคิดเรื่องเดิมซ้ำอยู่อย่ างนั้นไม่จบสิ้น

3. ระบุขณะสำหรับ "การหยุดใช้สมอง"

การกำหนดเวลา "หยุดใช้สมอง" ช่วยห้ามไม่ให้คุณหมกมุ่นกับปัญหาอย่ างใดอย่ างหนึ่งมากเกินไป

ดังเช่น การไม่คิดเกี่ยวกับเรื่องย ากๆหลังเวลาสองทุ่มเพื่อไม่ให้มันมารบกวนเวลานอนหลับ

มีคำเสนอแนะว่าให้แบ่งเวลาไว้ราว 20 นาทีต่อวัน สำหรับเพื่อการสะท้อนความคิดของตน

ข้างในยี่สิบนาทีนี้ ปล่อยให้ตัวเองตื่นตระหนก ครุ่นคิด ฟุ้งซ่านได้สุดกำลังตามอยากได้ แล้วเมื่อหมดเวลา

ก็ให้แปรไปทำสิ่งอื่นที่มีสาระกว่า หากคุณเริ่มคิดมากนอกช่วงเวลาที่กำหนดไว้เมื่อใด

ก็ให้เตือนตัวเองว่า ค่อยเอาเก็บไปคิดขณะที่ระบุดีมากยิ่งกว่า

4. เบี่ยงเบนความคิดของตนเอง

ฟังมองกล้วยๆแต่แท้จริงการจดจ่อกับสองสิ่งไปพร้อมนี่มันย ากนะ

ทดลองออกกำลังกายหรือเล่นเกมมองเมื่อรู้สึกตัวว่าตัวเองกำลังคิดมากเพื่อสร้างสมดุลระหว่างอารมณ์รวมทั้งร่างกาย

ผู้เชี่ยวชาญหลายๆคนก็เห็นด้วยกับวิธีนี้หมายถึงให้หากิจก ร ร มที่เบี่ยงเบนความสนใจของคุณ


ซึ่งควรเป็นกิจก ร ร มที่ใช้อีกทั้งร่างกาย ความคิด และ การร่วมเล่นกับคนอื่น ดังเช่นว่า เทนนิส หรือการไปเที่ยวกับเพื่อนพ้องสักคน

5. จุดโฟกัสที่สิ่งที่ทำได้ในขณะนี้

อีกหนึ่งแนวทางแก้นิสัยคิดมากก็คือ เลิกคิดแล้วลงมือทำอย่ าไปจุดโฟกัสในสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำ สิ่งที่ยังมิได้ทำ หรือ

แม้กระทั้งสิ่งที่เกิดขึ้นรอบกาย แม้กระนั้นให้พุ่งความพอใจไปในที่สิ่งซึ่งสามารถทำเป็นในขณะนี้ก็พอเพียง

ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็กขนาดไหนก็ตาม แล้วหลังจากนั้นก็ลงมือทำมันซะ อย่างงี้ทุกครั้งที่เราไม่สบายใจ

ถึงปัญหาในเรื่องใดๆก็ตามพวกเราก็จะสามารถทำให้มันออกมาเป็นรูปเป็นร่างมากยิ่งขึ้น

6. เคารพความคิดเห็นของตนเอง

เหตุที่คุณยังคงคิดมากจนไม่ยินยอมตกลงใจส่วนหนึ่งส่วนใดอาจเป็นเพราะเนื่องจากคุณไม่เชื่อว่าตนเองจะตกลงใจเลือกสิ่งที่ถูกต้อง

ควรเรียนรู้ที่จะเคารพความคิดเห็นของตัวเองยิ่งคิดมากเยอะแค่ไหน คุณก็จะยิ่งลังเลในความนึกคิดของตนเองมากเท่านั้น

7. คุณสามารถเปลี่ยนการตัดสินใจที่บกพร่องได้

คือเรื่องธรรดาที่จะวิตกกังวลว่าคุณเลือกงานผิด สมรสกับผู้ที่ไม่ใช่สำหรับตัวเอง หรือแม้กระทั้งขับขี่รถกลับไปอยู่ที่บ้านผิดทาง

แม้กระนั้นความบกพร่องก็ไม่ได้ทำให้เกิดหายนะเสมอไป แถมยังเป็นช่องทางให้ได้ศึกษาแล้วก็เติบโตขึ้นด้วย

คุณไม่จำเป็นต้องกลุ้มใจกับความบกพร่องเลย แล้วก็ ให้เข้าใจไว้ว่าความความเห็นหรือวิชาความรู้ของ

คุณนั้นมันเปลี่ยนได้เสมอตามกาลเวลา แล้วคุณจะรู้สึกสงบและเป็นอิสระจากด้านในอย่ างโดยความเป็นจริง
คิดมาก 
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13411/
คำค้นหา : ฟุ้งซ่าน