หนิง ปณิตา ร่ำไห้เปิดโปง จิน เป็นข้างขอหย่า

[Chanapot]

"หนิง ปณิตา" ลั่นยังไม่หย่า แต่เซ็นกติกากันเรียบร้อยแล้ว ไม่ต้องการที่จะอยากจบแบบชัง เปิดเผยจินท้าทายหย่ามาตลอด มีหญิงครั้งก็ขอหย่าครั้ง ในตอนนี้สุดแรงเอื้อมแล้ว ขอหมดปัญหาเอง พร้อมเปิดเผยขอปฏิบัติภารกิจเมียหลวงที่ถูกตามกฎหมาย ฟ้องมือที่สามเรียบร้อยแล้ว พร้อมฝากถึงสามี ขอให้ทำอะไรให้ลูกยินดีว่าบิดารักลูก !

หลังจากที่มีข่าวสารคาราคาซังว่าจะหย่าหรือไม่หย่า ปัจจุบัน "หนิง ปณิตา ธรรมวัฒนะ" ก็ได้ออกมาเคลียร์หมดเปลือก ถึงเรื่องราวชีวิตแต่งงานกับ "จิน จรินทร์ ธรรมวัฒนะ" ผ่านรายการคุยแซ่บโชว์วันนี้ (24 เม.ย.) เปิดเผยผัว มีหญิงหนก็ขอหย่าคราว ก่อนหน้าที่ผ่านมาท้าหย่าตลอด จนถึงรู้สึกเมื่อยล้า แล้วก็ต้องการจบ เพราะว่าไม่อยากเกลียด ระหว่างที่ตอนนี้แยกกันอยู่ ยังไม่เซ็นหย่า แต่พร้อมหย่า และก็ได้ทำข้อตกลงกันเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว
"การมาสัมภาษณ์วันนี้ได้สนทนาและก็ขอคำแนะนำณิรินแล้ว เขาก็พร้อมจะเข้าดวงใจ มีการพูดคุยเป็นขั้นตอนเป็นระเบียบ กลายเป็นผลึกกันแล้วว่าการสอนลูกจากความเป็นจริงที่เกิดขึ้นแล้วก็แก้ปัญหาจากเรื่องจริงน่าจะเป็นสิ่งที่เหมาะสมที่สุด

ล่าสุดที่โพสต์ ถามว่าตัดสินใจยังไง ยอมรับว่าสภาพจิตใจพวกเรา เห็นเราเป็นแบบนี้ พวกเราพากเพียรสตรองมากยิ่งกว่า แม้กระนั้นจริงๆไม่ใช่คนสตรองเลย ตัดสินใจนานนะกว่าจะโพสต์แบบงั้น ถ้าแต่ก่อนคิดปุบปับทำปั๊บโดยทันที ในตอนนี้คิดปุ๊บเขียนเสร็จ นั่งถอยมาสองชม. หรือทำอะไรช้ามาก ดึงจนถึงบางบุคคลไม่เข้าใจว่าดึงอะไร แต่เมื่อตกลงใจทำแล้ว ขอให้กำเนิดข้อผิดพลาดให้ต่ำที่สุด"

เหตุผลที่รู้สึกว่าพร้อมพูดไพเราะสุดแรงเอื้อม ขอจบปัญหาเอง
"เริ่มกระทบ รวมทั้งลุกลามไปคนรอบๆข้าง เรามีความคิดว่าเรื่องนี้พวกเราคงจะสะสางข้างหลังบ้านได้ แม้กระนั้นได้รับการจัดการหลังบ้านมาโดยประมาณนึงแต่มันไม่เป็นผลสำเร็จ มันไม่สมควรมีข่าวเกิดขึ้นอีก แต่ว่าข่าวเกิดขึ้นเรื่อยๆการตัดสินใจเรื่องครอบครัวเกิดเรื่องใหญ่ ตัวหนิงจุดบกพร่องในชีวิตเป็นตกลงใจเร็ว แรง ใจร้อน แต่เรื่องก่อนหน้านี้ทั้งหมด การใช้ชีวิตหลายๆเรื่อง ต้นเหตุ หนิงไม่ผิด แต่ว่าจบด้วยหนิงเป็นคนผิดทุกคราว เนื่องจากว่าหนิงไม่มีสติและใช้อารมณ์ มันเป็นเงื่อนในใจหนิงตลอดๆบากบั่นแก้ไขนี้ เนื่องจากกำลังสอนลูกให้ดำรงชีวิตอย่างมีสติกับสังคมที่เกิดอะไรก็ไม่เคยทราบหนิงแข็งแรงต่อหน้าต่อตาทุกคน แต่เวลาถอยไปอยู่คนเดียว คนใกล้ตัวจะมีความคิดเห็นว่าหนิงเป็นยังไง เมื่อสุดแรงเอื้อม หนิงขอหมดปัญหาเองดีกว่า

ตลอด 10 ปี ปรับจำนวนมาก ทุกวิถีทาง จากเป็นสตรีปฏิบัติงานแล้วกลับไปอยู่บ้าน เพราะเหตุว่ากลัวแก่ กลัวไม่สวย ปาร์ตี้บ้าง ไปเที่ยว แต่ระยะยาวมันนานเข้าก็รู้สึกว่ายามเช้าหญิงจำต้องดำเนินงาน แล้วหนิงทำงานมิได้ มันก็ไม่ใช่ตัวหนิง เราก็จะต้องกลับมาในจุดที่เป็นตัวหนิง มันอ่อนเพลียค่ะ ปรับสุดแต่ยังไม่ดี ไม่ทราบว่าจุดเริ่มต้นมีต้นเหตุที่เกิดจากตรงไหน ปัญหานี้มีมาเรื่อยตั้งแต่มีข่าวใหญ่โตในอดีตกาล จากนั้นก็มีมาอีกเรื่อยๆคนเราเพียงพอปรับไปเรื่อยดำรงชีวิตหลายๆอย่าง บางโอกาสเราก็สารภาพว่าพวกเราก็ผิด เราไปจิก ไปตาม หลายๆอย่าง จนกระทั่งสุดท้ายเราก็สารภาพ ถ้าจะมีลูกเลยก็ทำใจได้

ถ้าหากเขามีเพศหญิงอื่นตอนที่พวกเราอยู่ในสถานะภรรยาก็ยอมรับได้ แต่ว่าจำต้องไม่ล้ำเส้นกัน จะต้องไม่ให้เราออกมากล่าว ออกมาจัดการ ไม่กระทบกับความรู้สึกลูกเรา มีความคิดว่าชีวิตก็น่าจะอยู่ตัวแล้ว ไม่คิดไม่ฝัน เดี๋ยวนี้ก็ยังรู้สึกว่ามันจริงใช่ไหม แต่เมื่อกำเนิดปัญหาขึ้นจริง จะหลอกตัวเองว่าไม่จริง แล้วปล่อยให้เรื่องเฉยๆซาๆแล้วออกมาพูดเบาๆแล้วปลดปล่อยให้เงียบๆเสมือนก่อนหน้านี้ มันทำมาตลอด แต่ ณ วันนี้มันแรงขึ้น เลยตกลงใจว่าผ่าตัดทีเดียวให้มันจบ แล้วรักษาแผล รักษาจิตใจหลังจากนี้ ให้เดินไปข้างหน้าได้อย่างมีพลัง"

ลั่นไม่อยากรังเกียจจิน ต้องการให้ได้โอกาสประสานมือกันเพื่อลูก คิดตั้งแต่สิ้นปี ปล่อยให้มีอิสระ จะทำอะไรก็ทำ
"ตกลงใจบอกวันนี้ มั่นใจว่าจบแบบนี้ หนิงก็มีส่วนผิด แต่หนิงทำในส่วนที่หนิงผิดดีเยี่ยมที่สุดแล้ว หนิงไม่ได้อยากต้องการชังจิน ต้องการที่จะให้วันนี้ได้โอกาสจับมือกับจินเพื่อลูก แต่ว่าหากดึงไปๆมาๆกกว่านี้ หนิงไม่ต้องการนั่งแอ๊บ คนเราช้ำเยอะมากๆแปลงจากความช้ำเป็นไม่ชอบ รักมากมาย รักมากก็ชังมากมายหนิงไม่อยากเกลียดชัง ต้องการประสานมือกับเขาต่อ แต่ในสถานะบิดาของลูกหนิงไม่ใช่สถานะเขาเป็นผัวหนิง หนิงตริตรองมาจนสุดแล้ว รวมทั้งน่าจะเป็นวิธีที่เยี่ยมที่สุด แล้วก็เป็นแนวทางที่จินเองจะได้มีอิสระ ทำทุกๆสิ่งทุกๆอย่างได้เป็นสุข ไม่ทำให้ผู้ใดเสีย

คิดดีแล้ว หนิงคิดมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ก่อนหน้าที่ผ่านมาเราสองคนทะเลาะกัน เขาแน่ใจว่าพวกเรารักเขา ถึงแม้ว่าจะเขาทำอย่างไรพวกเราก็ให้อภัย หนิงก็มั่นใจว่ารักเขามาก ก็มีการท้าหย่ากันเบาๆตลอดระยะเวลา แต่พักหลังกล่าวหลายครั้ง ไม่ได้บอกกับหนิง แต่ว่าไปพูดกับเพื่อนฝูง คนที่อยู่รอบข้างหนิง พอคนที่อยู่รอบข้างหนิงมาถามคำถามว่าจะหย่ากันหรอ หนิงก็ขำ บ้าบอ คนไหนจะไปหย่ากับมัน"

ข้างชายเป็นคนเอ่ยปากขอหย่า มีสตรีหนก็ขอหย่าคราว แถมบอกว่าแม้กระทั่งไม่มีสตรีคนนี้ก็เลิก
"จนกระทั่งช่วงที่หนิงไปอยู่เที่ยวที่ประเทศเกาหลี เป็นข่าวช่วงวาเลนไทน์ ข้างหลังกลับมาที่ประเทศไทยแล้ว พี่ๆที่เคารพนับถือของหนิงและจินเอง หลายๆท่านก็ทนไม่ได้ ก็เรียกให้มาจัดการ มาคุย แม้กระนั้นการคุยกันวันนั้น ก็ยังพูดว่าต้องการจะหย่า จินเป็นคนพูด

มีผู้หญิงครั้งก็ขอหย่าครั้ง หนิงอิดโรย มันกระทบกับครอบครัว ทุกความเชื่อมโยงไม่มีผู้ใดไม่มีปัญหา แต่ทุกความสัมพันธ์จะดียิ่งขึ้นจะต้องได้รับความร่วมมือทั้งสองฝ่ายที่จะแก้ไขพวกเราเคยคุยกันแต่ก็จบแบบเดิมๆพี่เป๊กเรียกไปนั่งคุย ก็จบว่าพวกเราจะทำให้ดีเยี่ยมที่สุด แม้กระนั้นภายหลังจากกลับจากประเทศเกาหลี ก็ยังยืนยันในอย่างงี้ ด้วยคำบอกเล่าที่ว่าต่อให้ไม่มีสตรีคนนี้ก็เลิก จินเป็นคนพูด ได้ แล้วพวกเราจะรับผิดชอบลูกด้วยกันอย่างไร เขาก็ให้ข้อเสนอแนะมา 1 234 ทำข้อตกลง 1 ฉบับเพื่อยื่นให้ทนายความ ทำถูกกฎหมาย

คนอาจคิดว่าข้อตกลงหนิงจำต้องได้อะไรเยอะล้นหลาม ขอใช้พื้นที่ที่ตรงนี้สะสางเอง คนเข้าใจว่าศิลปินสมรสกับคนมั่งมีเนื่องจากพวกเราต้องการมีความสุข อยากใช้เงินเขา พวกเราก็เลือกเอง อยู่สวยๆใช้เงินไป โคตรเจ็บ หญิงคนนี้ดำเนินการอายุ 15 ส่งน้องเรียน 3 คน จบการศึกษาที่ดีเยี่ยมทุกคน ดูแลแม่ แต่งงาน ไม่เคยไปลำบากหรือพึ่งพิงอะไรจินเลย หนิงดูแลตัวเองทั้งหมด"

เอกสารไม่จบเพราะเหตุว่าข้างผัวไม่ทำอะไรเลย
"แม้กระนั้นเอกสารนี้ที่ไม่จบ คือจิน ไม่มาทำอะไร ในสิ่งที่จิน ตกลงว่าจะทำ สิ่งที่ห่วงที่สุดเลย ถ้าวันใดวันหนึ่งกำเนิดกับชีวิตหนิง คนเป็นแม่จะทราบว่าความมั่นคงยั่งยืนของลูกเราจะเป็นอย่างไรในอนาคต หนิงห่วงอยางเดียวเป็นณิรินเพียงแค่นั้น สิ่งที่หนิงขอให้ทำกับณิริน เกิดเรื่องเล็กมากมาย ถ้าหากหนิงจะทำสิ่งเหล่านั้นเองในวันนี้ หนิงก็ทำได้ แม้กระนั้นหนิงมีความรู้สึกว่าอย่างต่ำให้ลูกภูมิใจว่าพ่อได้ปฏิบัติภารกิจการเป็นบิดาให้กับลูก หนิงก็เชื่อว่าเขารักลูก แต่หนิงไม่ได้อยากอะไรที่เป็นปากเปล่า ปากเปล่าใครกันแน่จะบอกอะไรก็ได้ พอเพียงพวกเราแยกสถานภาพความเป็นผัวเมียเราเป็นคนภายนอก พวกเราไม่มีสิทธิ์อะไรไปสั่งเขา พวกเราควรทำเป็นลายลักษณ์อักษร เป็นเอกสาร ถ้าเกิดวันนึงแยกกัน เป็นเพื่อนกัน เราจำเป็นต้องไม่ทะเลาะกันด้วย จะต้องคิดอะไรละเอียดและก็ไกลๆหากจะต้องทะเลาะกันในฐานะความเป็นมิตร ก็ไม่ต้องเลิกกันดียิ่งกว่าไหม"
เซ็นกติกาเรียบร้อย แต่ว่ายังไม่เซ็นหย่า
"เอกสารนี้หนิงได้เซ็นเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้ว เป็นเพียงแค่ข้อตกลง ยังมิได้มีการเขียน เซ็นใบหย่าอะไรก็ตามจากวันนั้น จนกระทั่งวันนี้ หนิงก็รอคอยการที่จะมาจัดการว่าจะทำยังไง รวมทั้งหนิงไม่ได้รับการสะสางตรงนั้นเลย ซึ่งหนิงไม่รู้จำต้องประพฤติตัวยังไง พอเพียงมีข่าวสารก็ไม่ทราบจะตอบยังไง เนื่องจากว่ากำลังแก้ปัญหาข้างหลังบ้านให้เยี่ยมที่สุด หวังว่าประเดี๋ยวก็กลับมาน่ะ แม้กระนั้นข่าวล่าสุด หลังบ้านมีอะไรวุ่นวายกว่านั้นมาก จนถึงหนิงมีความรู้สึกว่าหากหนิงไม่นำก็ไม่จบ"

รู้เพราะณิรินมาเล่าให้ฟัง
"คนรู้เรื่องนี้คือลูก รวมทั้งเป็นคนมาเล่าให้ฟัง ตอนแรกมีความคิดว่าเกิดเรื่องขำ ตลกขบขัน คิดว่าณิรินพูดเล่นๆ ห่วงบิดา ไม่คิดว่าเกิดเรื่องจริง เราก็ไม่ต้องกลับไปบอกอะไรกับเด็ก เราจำเป็นต้องไม่ไปซ้ำเรื่องเดิมกับเด็ก หน้าที่แม่คือพยุงความจริงที่เขาทราบ ให้เขาเข้าใจเรื่องจริงที่เด็กควรเข้าใจ พวกเรามีอะไรก็จะเพียงพอเดาทางลูกถูกว่าเขาเข้าใจแบบติดลบหรือเชิงบวก หรือกลางๆ

หนิงผ่านการพูดกับลูกเรียบร้อยแล้ว ณิรินไม่รู้เรื่องการเลิก เขากลัวว่าเขาจะไม่ได้พบคุณอากับปู่ และก็รองลงมาคือป๋าเขา พวกเราก็กล่าวว่าไม่มีปัญหาเลย แม่ก็ยังเป็นลูกสาวและก็เป็นพี่สาวอา และเป็นเพื่อนบิดา หนิงคิดทบทวนแล้วทวนอีก จนถึงเชื่อมั่น นี่เป็นผ่านกรรมวิธีความคิดของหนิง มานานมากแล้ว"
ต้องการหย่า ถึงเจ็บแต่ว่าไม่ได้อยากเกลียดชัง ฟ้องบุคคลที่สามแล้ว
"ถามคำถามว่าอยากหย่าไหม อยากนะ เจ็บไหม เจ็บ แต่ว่าหนิงไม่ต้องการที่จะอยากชัง อยากให้จินเป็นพ่อที่สวยของลูก หนิงมีความคิดว่าเป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุด หนิงกับลูกนอนคุยกับทุกเรื่อง เขารู้ทุกเรื่อง เขาก็โอเค

จุดเริ่มหนิงมิได้ไม่ถูก แม้กระนั้นจุดจบหนิงผิดตลอดระยะเวลาเพราะความไม่มีสติ ฟาดฟันก่อกวน ด่าทอ คุณให้ข่าวอย่างนี้ ฉันให้ข่าวหนักกว่าคุณ แม้กระนั้นวันนี้มานะปิดทุกสิ่งทุกอย่างให้เงียบที่สุด หนิงใช้แนวทางตามกฎหมาย แม้ว่ามิได้เซ็นหย่า ใช้วิธีตามกฎหมาย ตามภรรยา เมียหลวงที่จะต้องมี เขามีข้อบังคับให้จัดการ หนิงได้ฟ้องบุคคลที่สาม ซึ่งศาลรับฟ้องเป็นระเบียบแล้ว

ปวดใจณิรินพบปัญหาที่โรงเรียนครั้งใดก็ตามเป็นข่าว
"ณิรินพบปัญหาที่สถานศึกษาทุกครั้งที่เป็นข่าว มันปวดมากมายนะ ณิรินไม่มาเล่า หนิงไปรู้จากแม่เพื่อนซี้ณิรินแล้วหนิงก็ถามลูกว่าเพราะเหตุไรไม่มาเล่าให้แม่ฟัง คำตอบของณิรินคือเขาเห็นแม่เครียด มีปัญหาเยอะมากเยอะแยะ หนูไหวแม่ หนูโอเค หนูสบาย (เสียงสั่นเครือ) เขาบอกทุกคนจะถามเขา เขารู้กันอีกทั้งสถานศึกษาแหละแม่ ณิรินก็ตอบว่าใช่ ก็พ่อฉันแหละมีข่าวสาร แต่ว่าเขายังรักกันนะ เขาเป็นเพื่อนกัน

วันนี้หนิงบอกก็มีผลเสีย หนิงไม่กล่าวก็ทำให้เกิดผลกระทบ แต่ถ้าเกิดไม่ตกลงใจเป็นหัวหน้าไขปัญหาคราวนี้ ผลพวงระยะยาวจะหนักกว่า และหนิงเชื่อว่าทุกคนเข้าใจหนิง ก่อนหน้ามารายการนี้ หนิงก็หารือสูงที่สุด คนสำคัญที่สุดในชีวิตเลยก็คือลูกแล้ว

ช่วงนี้รอจัดการให้แจ่มกระจ่าง ว่ายังไง อย่างที่บอก เงียบก็เสี่ยงให้คนเข้าใจผิด กล่าวก็มีโอกาสเสี่ยงต่อการที่คนไม่เข้าใจพวกเราจะไม่เข้าใจ แต่อย่างที่บอก จุดบกพร่องในชีวิตหนิงสูงที่สุดเป็นทำอะไรก็ไม่มีสติ เวลาเรื่องสหาย พร้อมเป็นด่านหน้า แม้กระนั้นพอเรื่องตนเองล้มหมดรูป ล้มแล้วหลังจากนั้นก็ลุกขึ้นมาทบทวน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นข้างหน้า หนิงตัดสินใจบอกอย่างมีสติที่สุดแล้ว

(ร่ำรวยญ่า ร่ำรวยญาเรศ เองเครือญาติ ผู้นำเสนอในรายการ พูดว่านี่เป็นความแข็งแรงที่สุดสำหรับความเป็นแม่ ทำหนิงก้มหน้าร้องไห้) สิ่งที่ต้องการที่จะให้คนเข้าใจ บากบั่นมากมายเลยนะ ต้องการที่จะให้คนเห็นความเพียรพยายามของหนิง ในตอนที่มันห่วยแตก (ธัญญ่า-เบนซ์ พรชิตาเข้าไปกอด) ไม่อยากที่จะให้คนเห็นน้ำตาว่าเรามานั่งร้องไห้ อยู่บ้านพวกเราก็ยิ้ม แต่ว่าเหมือนเล่นละคร ร้องไห้อยู่ด้านใน ฝืนยิ้มเพื่อทำให้ลูกเราไม่รู้สึกอะไร

ให้อภัยแล้ว แม้กระนั้นอย่างน้อยขอให้ทำให้ลูกภูมิใจว่าพ่อรักเขา
"ถามคำถามว่าต้องการบอกอะไร จริงๆคุยทุกเรื่องแล้ว เกิดเหตุก็พยายามคุย แต่ว่าเขาไม่คุย หนิงก็ใช้แนวทางส่งข้อความ คุยทุกเรื่องในหลายๆเวอร์ชั่นแล้ว ถามว่ายังรักไหม รักในวันข้างหน้าที่จะเป็นเพื่อลูกได้ อยากกล่าวว่าให้ทำเพื่อลูก ไม่ต้องทำเพื่อหนิง ส่วนของหนิงมันจบแล้ว ที่เหลือทำเพื่อลูก

คุณยายบอกหนิงเสมอว่ามนุษย์เราจะขจัดปัญหาอะไรได้ ต้องยอมรับเรื่องจริงรวมทั้งยอมจบ ถึงจะเริ่มสิ่งใหม่ได้ จะต้องยอมจบก่อน หากไม่ยินยอมจบจะเริ่มต้นใหม่มิได้ หนิงต้องการที่จะให้หนิงกับจินอยู่ในสถานะพ่อแล้วก็แม่ที่ดีของลูก ต้องการที่จะให้ทำทุกๆสิ่งทุกๆอย่างเพื่อความมั่นคงของลูกที่แน่ชัด ไม่ใช่เพื่อหนิง หนิงไม่เคยทราบหรอกว่าอนาคตจะกำเนิดอะไรขึ้นอยู่กับคนใดกัน อะไรก็ได้ ที่ยอดเยี่ยมสำหรับลูก ให้จัดแจงให้ลูกซะ จะมากจะน้อยขอให้ทำให้ลูกมีความภูมิใจว่าบิดารักเขาในตอนนี้ขอแยกกันอยู่ครู่หนึ่ง แต่ว่าหนิงมีแต่ความหวังดี หนิงก็ต้องการที่จะให้เขาได้พบผู้ที่แมตซ์กับเขา เข้าใจเขา และก็อยู่กับเขาจริงๆหากเขามีความสุข ลูกเราก็มีความสุขด้วย

หนิงให้อภัยเขาไปนานแล้ว หนิงช่วยทำทุกสิ่งแล้ว เพียงแค่มีคนเห็นว่าหนิงเปลี่ยนแปลงในเวอร์ชั่นที่ดีขึ้น เพียงเท่านี้ก็เกิดกำลังใจแล้ว (ร้องไห้) หนิงเป็นคนห่ามๆกระจ่างแจ้ง แต่ว่าคนก็ถูกมองดูติดลบ หนิงอัดมาอีกทั้งรายการไม่มีน้ำตา (ร้องไห้) แค่มองเห็นในมุมบางๆว่าหนิงเปลี่ยนแปลงตัวเองได้ อยากเป็นแม่ที่ดีเพื่อลูกแค่นั้นเอง หลังเทปนี้กระจายเสียงไป ก็ไม่ต้องมาถามอะไรหนิงแล้ว ยุคนี้ยุคไหนแล้ว อย่าทนเพื่อชิงชัง"
หนิง ปณิตา
ขอบคุณข้อมูลจาก https://freelydays.com/13824/